สวัสดีครับเพื่อนๆ ครั้งนี้เป็นบทความพิเศษนิดนึง ด้วยเวลาที่มีไม่มาก จึงขอเขียนถึงหนังสือทีเดียว 2 เล่ม คือ "คาถาชีวิต" และ "พุทธวจน ปฐมธรรม" จากผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ 2 ท่าน หนังสือคาถาชีวิต ของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ผมได้รับจากคุณดวงพร อิฐรัตน์ ข้าราชการบำนาญสาธารณสุข จังหวัดชัยนาท ที่ผมร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยในระยะหลัง พร้อมกับแยมทาขนมปังที่แถมากับหนังสือ อันที่จริงแล้วหนังสือทุกเล่มของคุณวิกรม ผมเคยตั้งใจว่าจะไม่อ่าน จนกว่าผมจะประสบความสำเร็จเสียก่อน
แต่เพราะว่าคุณดวงพร มอบให้ผมจึงตัดสินใจอ่านเลยในคืนวันที่ 15 มกราคม 2556 รวดเดียวจบ เพราะอ่านง่ายสบายตา ไม่มีอะไรมากไปกว่าแนะนำให้อ่าน อาจมีบางคาถาโดนใจ กระตุกต่อมความคิดของหลายๆ คนได้ เพราะคุณวิกรม พยายามจะเขียนให้เราอ่านง่ายที่สุด ได้สาระที่สุด จากนิยามของคำว่า "คาถา" สำหรับผมแล้วมีหลายคาถาที่โดนใจผม มีที่โดนใจผมมากที่สุด 5 คาถา แต่ที่ผมเลือกมาให้เพื่อนๆ อ่านนั้นสำหรับผมแล้ว เป็นความเหมือนที่แตกต่าง คือ ที่หน้า 60-61 มีคาถาว่า
"เตียงมีไว้นอน โต๊ะมีไว้ทำงาน" เมื่อนอนไม่หลับก็ควรลุกขึ้นจากเตียงนอนมาทำงานที่โต๊ะทำงาน เมื่ออ่อนเพลียแล้วค่อยกลับไปนอนต่อบนเตียง คนที่สามารถจะทำได้อย่างนี้ คือ คนที่ทุ่มเทชีวิตให้กับงาน ในความคิดของผมการทำงานเหมือนกับการมีชีวิต ทำงานคือ ดำเนินชีวิต และไม่หนักหนาแต่อย่างใด นี่คือจุดที่เหมือน แต่ที่ต่างก็ตรงที่ว่า ทั้งนอนและทำงาน ผมอยู่บนเตียงเสมอครับ ถ้าคุณวิกรมมาอ่านเจอ คงขำนิดๆ ครับ ผมก็หวังว่าเพื่อนๆ จะลองหาอ่านดูนะครับ หรืออย่างไรก็อาจจะไปพบกันเพือแลกหนังสือกันอ่านก็ได้ตามโครงการ "โฉนดหนังสือ" ที่ Central World อ่านรายละเอียดตามลิงก์นี้ครับ
กับหนังสืออีกเล่ม คือ "พุทธวจน ปฐมธรรม" ที่ผมได้รับจากอาจารย์ธีระ เจ้านายเก่าของผมที่เบอร์ลี่ยุคเกอร์ ที่เป็นผู้ให้โอกาสผมมากมายในการทำงาน พิสูจน์ตัวเอง และค้นหาจินตนาการ ในการเป็นนักการตลาด ในระยะหลังท่านศึกษาธรรมะมากขึ้น จึงได้แนะนำสิ่งดีๆ ให้ผมมาตลอด ปีนี้อาจารย์ให้หนังสือผม 4 เล่ม พร้อมซีดี เป็น "พุทธวจน" ทั้งสิ้น โดยท่านเอาเล่ม "ปฐมธรรม" วางไว้บนสุด และแนะนำให้ผมอ่านก่อน ท่านบอกผมว่า อ่านแต่คำพูดของพระพุทธเจ้า แล้วใช้ปัญญาคิด ไตร่ตรองเอง ผมตื่นมาเช้าวันพุธที่ 16 มกราคม 2556 ซึ่งเป็นวันครู จึงตั้งใจที่จะอ่านหนังสือบางส่วน และระลึกถึงคุณครู และลงมือพิมพ์บทความถึงโฆษณาเชิดชูเกียรติคุณครู ของเซเว่น
อ่านหนังสือธรรมะอย่างตั้งใจ และระลึกถึงคุณครู คือเรื่องที่ผมต้องทำเช้าวันนที่ 16 มกรา 56 และวันนี้ยังเป็นวันเรียนวันแรกของการเรียนปริญญาโท สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต เทอม 2 ของผมด้วย จึงนับเป็นวันดียิ่ง เพียงแค่จับปก "ปฐมธรรม" และอ่านข้อความข้างล่างเล็กๆ ว่า
"เข้าใจธรรมเพียงบทเดียว ก็เพียงพอ" คามณี ! ...เพราะเหตุว่า ถึงแม้เขาจะเข้าใจธรรมที่เราแสดงสักบทเดียว นั่นก็ยังจะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ชนทั้งหลายเหล่านั้น ตลอดกาลนาน
ซึ่งเป็นความหมายที่ผมมักพูดกับคนใกล้ตัวเสมอ หรือแม้แต่การที่ผมทำบล็อก Plan to pass away ที่จะบอกเล่าแนวคิด "มรณานุสติ" เพื่อให้เป็นสิ่งเตืนใจเพื่อนที่มาอ่านแล้ว จะได้เตรียมตัวก่อนตายได้ / เพียงแค่หน้าปกของ "ปฐมธรรม" ก็คุ้มค่าแล้ว ผมเคยได้ยินจากผู้รู้แนะนำว่า หนังสือดี ให้อ่านที่ "คำนำ" เป็ยอย่างที่ผู้รู้กล่าว เพราะคำนำนั้นจะทำให้เรามองเห็น และกระตุ้นให้เราอยากอ่านเนื้อหาข้างใน ผมขอคัดลอกบางส่วนที่ผมอยากแนะนำมาแบ่งปันครับ
".....หากเพียงมุ่งสร้างสังคมโลกที่สงบสุขน่าอยู่ หรือเพียงเพื่อดูแลชีวิตของตนเองให้ดีแค่นั้น การมีขึ้นของอรหันตสัมมาสัมพุทธะก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด....."
แล้ววันนี้ เดือนนี้ เพื่อนๆ อ่านหนังสืออะไรบ้างครับ มาแบ่งปัน เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
(ขอบคุณภาพจากลิงก์ http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=54032)
แต่เพราะว่าคุณดวงพร มอบให้ผมจึงตัดสินใจอ่านเลยในคืนวันที่ 15 มกราคม 2556 รวดเดียวจบ เพราะอ่านง่ายสบายตา ไม่มีอะไรมากไปกว่าแนะนำให้อ่าน อาจมีบางคาถาโดนใจ กระตุกต่อมความคิดของหลายๆ คนได้ เพราะคุณวิกรม พยายามจะเขียนให้เราอ่านง่ายที่สุด ได้สาระที่สุด จากนิยามของคำว่า "คาถา" สำหรับผมแล้วมีหลายคาถาที่โดนใจผม มีที่โดนใจผมมากที่สุด 5 คาถา แต่ที่ผมเลือกมาให้เพื่อนๆ อ่านนั้นสำหรับผมแล้ว เป็นความเหมือนที่แตกต่าง คือ ที่หน้า 60-61 มีคาถาว่า
"เตียงมีไว้นอน โต๊ะมีไว้ทำงาน" เมื่อนอนไม่หลับก็ควรลุกขึ้นจากเตียงนอนมาทำงานที่โต๊ะทำงาน เมื่ออ่อนเพลียแล้วค่อยกลับไปนอนต่อบนเตียง คนที่สามารถจะทำได้อย่างนี้ คือ คนที่ทุ่มเทชีวิตให้กับงาน ในความคิดของผมการทำงานเหมือนกับการมีชีวิต ทำงานคือ ดำเนินชีวิต และไม่หนักหนาแต่อย่างใด นี่คือจุดที่เหมือน แต่ที่ต่างก็ตรงที่ว่า ทั้งนอนและทำงาน ผมอยู่บนเตียงเสมอครับ ถ้าคุณวิกรมมาอ่านเจอ คงขำนิดๆ ครับ ผมก็หวังว่าเพื่อนๆ จะลองหาอ่านดูนะครับ หรืออย่างไรก็อาจจะไปพบกันเพือแลกหนังสือกันอ่านก็ได้ตามโครงการ "โฉนดหนังสือ" ที่ Central World อ่านรายละเอียดตามลิงก์นี้ครับ
กับหนังสืออีกเล่ม คือ "พุทธวจน ปฐมธรรม" ที่ผมได้รับจากอาจารย์ธีระ เจ้านายเก่าของผมที่เบอร์ลี่ยุคเกอร์ ที่เป็นผู้ให้โอกาสผมมากมายในการทำงาน พิสูจน์ตัวเอง และค้นหาจินตนาการ ในการเป็นนักการตลาด ในระยะหลังท่านศึกษาธรรมะมากขึ้น จึงได้แนะนำสิ่งดีๆ ให้ผมมาตลอด ปีนี้อาจารย์ให้หนังสือผม 4 เล่ม พร้อมซีดี เป็น "พุทธวจน" ทั้งสิ้น โดยท่านเอาเล่ม "ปฐมธรรม" วางไว้บนสุด และแนะนำให้ผมอ่านก่อน ท่านบอกผมว่า อ่านแต่คำพูดของพระพุทธเจ้า แล้วใช้ปัญญาคิด ไตร่ตรองเอง ผมตื่นมาเช้าวันพุธที่ 16 มกราคม 2556 ซึ่งเป็นวันครู จึงตั้งใจที่จะอ่านหนังสือบางส่วน และระลึกถึงคุณครู และลงมือพิมพ์บทความถึงโฆษณาเชิดชูเกียรติคุณครู ของเซเว่น
อ่านหนังสือธรรมะอย่างตั้งใจ และระลึกถึงคุณครู คือเรื่องที่ผมต้องทำเช้าวันนที่ 16 มกรา 56 และวันนี้ยังเป็นวันเรียนวันแรกของการเรียนปริญญาโท สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต เทอม 2 ของผมด้วย จึงนับเป็นวันดียิ่ง เพียงแค่จับปก "ปฐมธรรม" และอ่านข้อความข้างล่างเล็กๆ ว่า
"เข้าใจธรรมเพียงบทเดียว ก็เพียงพอ" คามณี ! ...เพราะเหตุว่า ถึงแม้เขาจะเข้าใจธรรมที่เราแสดงสักบทเดียว นั่นก็ยังจะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลและความสุขแก่ชนทั้งหลายเหล่านั้น ตลอดกาลนาน
ซึ่งเป็นความหมายที่ผมมักพูดกับคนใกล้ตัวเสมอ หรือแม้แต่การที่ผมทำบล็อก Plan to pass away ที่จะบอกเล่าแนวคิด "มรณานุสติ" เพื่อให้เป็นสิ่งเตืนใจเพื่อนที่มาอ่านแล้ว จะได้เตรียมตัวก่อนตายได้ / เพียงแค่หน้าปกของ "ปฐมธรรม" ก็คุ้มค่าแล้ว ผมเคยได้ยินจากผู้รู้แนะนำว่า หนังสือดี ให้อ่านที่ "คำนำ" เป็ยอย่างที่ผู้รู้กล่าว เพราะคำนำนั้นจะทำให้เรามองเห็น และกระตุ้นให้เราอยากอ่านเนื้อหาข้างใน ผมขอคัดลอกบางส่วนที่ผมอยากแนะนำมาแบ่งปันครับ
".....หากเพียงมุ่งสร้างสังคมโลกที่สงบสุขน่าอยู่ หรือเพียงเพื่อดูแลชีวิตของตนเองให้ดีแค่นั้น การมีขึ้นของอรหันตสัมมาสัมพุทธะก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด....."
แล้ววันนี้ เดือนนี้ เพื่อนๆ อ่านหนังสืออะไรบ้างครับ มาแบ่งปัน เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
(ขอบคุณภาพจากลิงก์ http://www.tnnthailand.com/news/details.php?id=54032)
พิมพ์เมื่อ 16 มกราคม 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น