อ่าน "เมื่อเวรกรรม ไล่ล่า.....ดาราดัง" : ผมอ่านเล่มนี้จบ ได้อารมณ์มากครับ ทำให้ผมเริ่มเขียนบทความประวัติของตัวเองทันที

สวัสดีครับเพื่อนๆ ไม่บ่อยครั้งนักที่ผมจะอ่านประวัติของดาราดัง จากพ็อคเก็ตบุ๊ค ที่มีขายทั่วไป เพราะผมมักไม่ค่อยสนใจชีวิตมายาของดาราสักเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะว่า ผมสนใจชีวิตของคน 2 คนที่ชื่อ คุณนพพล โกมารชุน และ คุณปรียานุช ปานประดับ ในประเด็นของความรัก ก่อนที่ผมจะอ่านหนังสือ "เมื่อเวรกรรม ไล่ล่า.....ดาราดัง" ผมจินตนาการไปว่า ผมควรได้คำตอบถึงรูปแบบความรักของคนทั้งสอง และข้อเท็จจริงเรื่องสุขภาพของคุณปรียานุช และหลังจากที่ผมได้พบตัวจริงของคุณปรียานุช เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2554 ที่ B2S ศูนย์การค้า Central World ราชประสงค์ ทำให้รู้ว่าเธอจะมาเปิดตัวหนังสือเล่มนี้

ผมตั้งใจมาซื้อหนังสือของเธอในวันรุ่งขึ้น พร้อมขอลายเซ็นต์ ผมอาจฟังผิดพลาดเอง ทำให้ผมพลาดที่จะเจอเธอ และคุณนพพล แต่ไม่เป็นไร ผมจึงซื้อหนังสือและฝาก จนท.ของ B2S ให้เธอช่วยเซ็นต์ชื่อไว้ให้ครับ โดยผมขอให้เธอเซ็นต์ที่หน้า 48 และ 84 ไว้ด้วยครับ จากนั้นอีก 1 เดือนต่อมาผมถึงจะมีเวลาไปรับหนังสือคืน และเริ่มอ่าน.... และด้วยความที่ผมสนใจเรื่องความรักของทั้งสอง ต้องเรียกว่า ผมศรัทธาความรักของคนทั้งสอง ดีกว่าครับ ทำให้ผมอ่านจบรวดเดียวภายใน 1 คืน ผมจำไม่ได้ว่าอ่านเสร็จกี่โมง

รุ่งขึ้น ผมเริ่มลงมือพิมพ์บทความทันที โดยมีรูปแบบ ในแบบที่ผมอยากจะให้เป็น และมีจินตนาการในการนำเสนอรูปแบบใหม่ เป็นรูปแบบในแบบที่ผมคิดว่า ถ้าคิดให้ดีจะดูยุ่งเหยิง แต่ถ้ามองให้ดีดูซับซ้อน และถ้าพิจารณาให้ดีน่าค้นหา ผมจะพยายามพิมพ์หนังสือของตัวผมเองให้เสร็จ เพื่อเป็นการนำเสนอพ็อคเกตบุ๊คในแบบแปลก (ผมไม่อยากเรียกว่าแบบใหม่นะครับ)

ดังนั้นแล้ว ในความคิดของผม หนังสือของคุณปรียานุช นั้นน่าอ่านมากครับ แต่ผู้อ่านต้องปะติดปะต่อเรื่องเองในบางเหตุการณ์ คือต้องใส่ใจจดจำเรื่องเล่าที่คุณปรียานุชเล่า เพราะเธอไม่ได้เรียงลำดับตามเวลาในบางประเด็น ให้เราตามลำดับ แต่เป็นการเชื่อมโยงเหตุการณ์ หรือเหตุผลให้เข้าใจในบท ในคราวเดียวกัน เหมือนเธอเล่าให้เราฟัง ในเรื่องที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน ที่ทำให้เข้าใจในแบบที่เราก็จะเข้าใจในองค์รวม ซึ่งทำให้เข้าใจง่ายดีครับ และก็มีสไตล์ในแบบที่ผู้อ่านจะจับแนวทางได้ เออ..... ผมวิจารณ์แบบพวกที่อ่านรวดเดียวจบนะครับ เออ...แบบว่า อีกข้อ คือ ผมไม่ค่อยได้อ่านชีวิตดาราสักเท่าไหร่ หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจผมนะครับ

แต่ท้ายที่สุด คือ ผมชอบในความอดทนของเธอ ผมเป็นคนที่มีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงน้อยมาก เรื่องราวของเธอ ทำให้ผมมีมุมมองเรื่องผู้หญิงมากขึ้น ทำให้ผมจินตนาการบางสิ่งบางอย่างกับอุปนิสัยของหญิงที่ผมแอบรัก ได้อย่างที่ผมคิดว่าอาจจะเป็น หรือผมควรจะทำอย่างไร และท้ายที่สุดเรื่องราวสุขภาพของเธอที่ปัจจุบันที่ผมก็ยินดีด้วยกับการกลับคืนสู่สิ่งที่ควรจะเป็น มนุษย์ควรอยู่กับธรรมชาติ ทั้งธรรมจิต และธรรมกาย

ยินดีด้วยกับคุณปรียานุช ปานประดับ ครับ

พิมพ์เมื่อ 8 กันยายน 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น


บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับแรกครับ