แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฉันอ่าน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฉันอ่าน แสดงบทความทั้งหมด

2020-01-29_บทความชุด "ฉันอ่าน" ตอนที่ 5 ชื่อว่า "เจ้าพระยา" มาจากไหน และการขุดคลองลัดอ้อมเกร็ด ลัดแม่น้ำเจ้าพระยา @ 29 มกราคม 2563

สวัสดีครับทุกท่าน ในตอนที่ 5 นี้ เรื่องแรกที่อยากแบ่งปัน คือ ที่มาของชื่อแม่น้ำ "เจ้าพระยา" ว่ามาจากไหน เนื่องจากระหว่างที่อ่านเรื่องการขุดคลองลัดอยู่นั้น ในเว็บไซต์มีข้อมูลที่แสดงค่อนข้างมากคือ การถกเถียงเรื่องชื่อของแม่น้ำเจ้าพระยา ว่ามีที่มาอย่างไร มีการกล่าวถึงเจ้าพระยา 4 ท่าน หรือเรียกว่า "สี่เจ้าพระยา" ก็ตกไปเพราะเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา แต่ที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ วิธีการเรียกปากแม่น้ำที่ลงสู่ทะเล แล้วนำมาใช้เป็นชื่อเรียกของแม่น้ำแทน เช่น บริเวณทางออกของแม่น้ำบางปะกง เป็นอำเภอบางปะกง จึงเรียกว่า "แม่น้ำบางปะกง" หรือเช่นทุกวันที่ที่ใช้กันอยู่ คือ แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง

ส่วนของแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ปากทางออกทะเล ในอดีตเรียกว่า "บางเจ้าพระยา" จึงเรียก "ปากน้ำบางเจ้าพระยา" ปรากฎในสนธิสัญญาที่ไทยทำกับฝั่งเศษในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่มิสเตอร์ลาลูแบร์ เรียกแม่น้ำนี้ว่า "แม่น้ำบางเจ้าพระยา" และกลายเป็น "แม่น้ำเจ้าพระยา" เช่นทุกวันนี้ หลังจากที่ได้อ่านค้นคว้าเรื่อง การขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา มาสักระยะหนึ่ง ส่วนตัวพบเรื่องน่าสนใจเพิ่มมาอีก 3 เรื่อง ซึ่งหลังจบตอนนี้แล้ว ผมขอไปพิมพ์บทละคร "กด-หมาย" ต่อให้ครบอีก 4 ตอน (ตอนที่ 5-8) ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีความที่ตัวผมถูกฟ้องศาล อันเนื่องจากออกมาเปิดโปงการโกงสิทธิ์คนพิการที่สร้างความเสียหายถึงปีละมากกว่า 1.5 พันล้านบาท จากนั้นผมจะกลับมาพิมพ์บทความเกี่ยวกับ "การค้าและการเงิน" ของสมัยโบราณ เพราะยิ่งอ่านยิ่งค้นยิ่งน่าสนใจครับ

กลับมาที่การขุดคลองครั้งที่ 4-5 ในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเดินของแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับผมที่อ่านมาหลายบทความ และเห็นประจักษ์เชิงกายภาพ เราจะพบว่า การขุดคลองครั้งที่ 4 ในสมัยพระเจ้าท้ายสระ คือ การขุด "คลองลัดอ้อมเกร็ด" และการขุด "คลองลัดโพธิ์" ซึ่งต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 กลับให้มีการถมคลองลัดโพธิ์ เนื่องจากมีการกัดเซาะของแม่น้ำจนขยายคววามกว้างของคลองเพิ่มมากขึ้น จนถึงปัจจุบันที่ในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ท่านทรงทำเป็น "ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์"

ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณคลองอ้อมเกร็ด
ส่วนตัวนั้นเห็นว่า ชัดเจนมากว่าเป็นเรื่องของ "น้ำเค็ม"  จากทะเลที่ดันขึ้นไปด้านบนถึงจังหวัดปทุมธานี ส่งผลกระทบกับระบบเกษตรกรรมในอดีต เพราะปัจจุบันเรายังคงประสบปัญหาเรื่องนี้อยู่ ที่ทราบเรื่องนี้เพราะว่า บริเวณลำน้ำเจ้าพระยาช่วงกระทรวงพาณิชย์ มีนิคมน้ำแข็งซึ่งต้องใช้น้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยามาผลิตเป็นน้ำแข็งชนิดต่างๆ อยู่เกือบ 20 โรงงาน มักประสบปัญหาเรื่องน้ำกร่อยในช่วงหน้าแล้งของทุกปีที่น้ำเค็มหนุนขึ้นมา ตรงนี้เหตุผลโดยรวมส่วนหนึ่งอาจเกิดจากในอดีตมีการขุดคลองลัดหลายคลอง จนน้ำเค็มสามารถหนุนขึ้นมาได้สูงและเร็วขึ้น ได้อย่างเสียอย่างเป็นธรรมดา เพราะในอดีตการค้าขายที่ต้องล่องเรือไปถึงพระนครกรุงศรีอยุธยา ต้องพยายามให่ร่นระยะทางใช้เวลาให้น้อยที่สุด

ระหว่างอ่านค้นคว้า พบว่ามีการตั้งกระทู้กันเรื่อง ทำไมคลองลัดเกาะเกร็ด ถึงไม่ขยาย และแม่น้ำสายเก่าไม่ตื้นเขิน ซึ่งผมอ่านแล้วเห็นว่าน่าสนใจจึงนำมาแบ่งปันในบทความนี้ โดยภาพรวมวิเคราะห์กันไว้ว่า ในสมัยพระเจ้าท้ายสระ การขุดคลองอ้อมเกร็ด แนวการขุดเลยระยะทางตรงของกระแสน้ำไปแล้ว ทำให้กระแสน้ำยังคงไหลไปในทิศทางเดิม กระแสน้ำจึงไม่กัดเซาะแรงจนเปิดแนวคลองให้กว้างกลายเป็นแม่น้ำแทน อีกทั้งระยะทางที่แม่น้ำสายเก่าอ้อม ก็ไม่ไกลเกินไป ต่างจากคลองขุดอื่นๆ ที่ลัดระยะทางยาวพอสมควร สุดท้ายอีกเหตุผลหนึ่งที่มีการให้เหตุผลกันไว้คือ เรื่องของระยะเวลาที่ผ่านมา การขุดคลองอ้้อมเกร็ดและคลองลัดโพธิ์ ที่มีเวลาห่างกันมากกว่า 100 ปี หรือสื่อความหมายว่า อีก 100 ปีข้างหน้า บริเวณคลองลัดอ้อมเกร็ดก็จะมีขนาดความกว้าง ค่อยๆ กว้างขึ้นเอง

ทิศทางไหลของแม่น้ำเปรียบเทียบกับแนวขุดคลองลัดอ้อมเกร็ด

บริเวณคลองลัดโพธิ์ ที่ปัจุบันเป็นประตูระบายน้ำ ตามพระราชดำริของรัชกาลที่ 9

สำหรับคลองลัดโพธิ์ มีระบบประตูระบายน้ำ ซึ่งรัชกาลที่ 9 ของเราทุกคนท่านมีดำริให้ปรับคลองลัดโพธิ์เป็นประตูระบายน้ำ ตรงนี้สุดยอดมากๆ ครับ ดังนั้นคงหมดคำถามกับคลองขุดนี้ไปเลยครับ ยังแอบนึกไปเล่นๆ ว่า หากหลลายๆ จุดของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ในอดีตเคยเป็นเส้นทางเก่า แล้วมีการทำประตูน้ำแบบคลองลัดโพธิ์ ผมคิดว่าจะมีประโยชน์หลายอย่างเช่น การระบายน้ำสะอาดเข้าคลองอ้อมต่างๆ ไปยังคูคลองต่างๆ หรือการแก้ปัญหาเรื่องน้ำเค็มดันขึ้นสูในช่วงหน้าแล้ว เพราะเดิมธรรมชาติก็มีทั้งวิธีหน่วงน้ำ และรักษาสมดุลลน้ำในตัวอยู่แล้ว หากจะเร่งหรือฝืนธรรมชาติ ก็น่าจะสามารถควบคุมได้ เช่น "โครงการพระราชดำริ คลองลัดโพธิ์" ที่ทั้งง่ายแต่เคารพธรรมชาติ ของรัชกาลที่ 9 ครับ

ครบแล้วครับการบทความของคลองลัดทั้ง 5 คลองที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนเส้นทางเดิมของแม่น้ำเจ้าพระยา
  • ครั้งที่ 1 การขุด "คลองลัดบางกอก" กว่า 500 ปี ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช
  • ครั้งที่ 2 การขุด "คลองลัดเกร็ดใหญ่" กว่า 450 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
  • ครั้งที่ 3 การขุด "คลองลัดเมืองนนท์" กว่า 400 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
  • ครั้งที่ 4 การขุด "คลองลัดเกร็ดน้อย" กว่า 300 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ
  • ครั้งที่ 5 การขุด "คลองลัดโพธิ์" กว่า 300 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ

ถึงแม้ว่า คลองลัดเกร็ดน้อย จะมีความแตกต่างจากคลองลัดในอดีตที่ไม่ไดด้เกิดปรากฎการณ์ขยายความกว้างของคลองจนใหญ่เท่าแม่น้ำ แต่ก็เป็นเส้นทางที่นิยมใช้แทนแม่น้ำสายเก่าไปแล้วเรียบร้อยโรงเรียนเกาะเกร็ดไป ส่วนคลองลัดโพธิ์ก็พิเศษตรงกลายเป็นคลองลัดที่มีประตูระบายน้ำที่มีการควบคุมการปิด-เปิด แทน

สำหรับตอนที่ 6 เป็นต้นไปนั้น ผมจะนำเรื่องที่ได้อ่านแล้วสนใจมาแบ่งปันนะครับ เรื่องการค้า-การเงิน ในอดีตของอาณาจักรไทยครับ

พิมพ์เมื่อ 29 มกราคม 2563


ข้อมูลอ้างอิง:

ภาพถ่ายแม่น้ำเจ้าพระยา:

2020-01-15_บทความชุด "ฉันอ่าน" ตอนที่ 2 การขุดคลอง (สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา) @ 15 มกราคม 2563

สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับที่มาต้นเหตุของการพิมพ์บทความ "ฉันอ่าน" ที่มาจาก "ความสงสัยรวม" ผมอารัมภบทไปแล้วในตอนแรก สำหรับตอนที่ 2 นี้ ผมขอท้าวความถึงบทความที่ได้ไปทำบุญขึ้นปีใหม่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา ว่าทำให้ผมพึ่งทราบว่า คลองอ้อมนนท์ คือ แม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่า และมีการขุดคลองตรงบริเวณปากคลองอ้อมนนท์ ลัดตรงมาถึงวัดเขมาภิรตาราม ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยากว่า 400 ปี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเดินของแม่น้ำเป็นเช่นปัจจุบันนี้ แน่นอนว่านอกจากผมพึ่งรู้เรื่องนี้ ทำให้ได้คำตอบอีกหลายเรื่องตาม ซึ่งจะได้พิมพ์แทรกในบทความแต่ละตอนต่อไป อีกมูลเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเริ่มสนใจพิมพ์บทความชุด "ฉันอ่าน" คือ ตอนที่พิมพ์บทความพาภรรยาไปแก้บนที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปทุมธานี เพราะคดีอาญาที่ผมถูกฟ้อง ท่านผู้พิพากษาท่าน "ยกฟ้อง" เมื่อค้นประวัติศาลเจ้าพ่อหลักเมืองปทุมธานี  ก็แปลกใจกับการย้ายศาลหลักเมืองปทุมธานีถึง 8 ครั้ง

ซึ่งพบว่าการย้ายครั้งที่ 1 จากปากคลองบ้านพร้าว ฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา (ตะวันออก) ไปยังบ้านสามโคก ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา (ตะวันตก) ผมจึงตามไปดูว่า ในระบบแผนที่ ปากคลองบ้านพร้าวอยู่ตรงบริเวณใดของจังหวัดปทุมธานี แล้วสืบค้นประวัติต่อ พบว่าบริเวณปากคลองบ้านพร้าวก็เป็นอีกคลองหนึ่งที่ในอดีตเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่า แต่มมีการขุด "คลองลัด" ขึ้นมา แต่่มีข้อมูลในเรื่องนี้ไม่มาก ทำให้ผมสนใจเรื่องการขุดคลองลัด ตลอดลำน้้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุผลสำคัญอันดับต้นๆ ที่ผมมั่นใจว่าเป็นเหตุสำคัญคือ กษัตริย์ในแต่ละยุค โดยเฉพาะในยุคของกรุงศรีอยุธยา มีการค้าขายกับต่างชาติ จึงไม่ต้องการให้ต่างชาติเสียเวลาเดินทางอ้อมไปตามลำน้ำสายเก่า ผมดูจากแผนที่ก็อ้อมจริงๆ ครับ ยกตัวอย่างเช่น คลองอ้อมนนท์ ที่มีระยะทาง 16 กม. เมื่อขุดคลองลัดตรงมายังวัดเขามาภิรตาราม สามารถลัดตรงได้เหลือเพียง 5 กม.



River Festival 2018 “สุข แสง ศิลป์” ลอยกระทง 9 ท่าน้ำเจ้าพระยา

ผู้อ่านจะเห็นว่า การที่เราสงสัยอะไรสักเรื่อง เมื่อสืบค้นจนได้คำตอบแล้ว แต่พอเรื่องนั้นได้คำตอบแล้ว ก็มักจะซ่อนคำถามหรือข้อสงสัยต่อเนื่องมาอีก อยู่ที่ว่าเราจะหยุดหาคำตอบหรือไม่ ดังนั้น บทความชุด "ฉันอ่าน" จึงเป็นอีกงานหนึ่งที่ส่วนตัวอยากทำขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับหลายๆ คนที่อาจจะมาสนใจตรงกับที่ผมสงสัยพอดีครับ

หลังจากที่อ่านหลายๆ ข้อมูล แอบดีใจว่า ประเทศไทยคลองเยอะมากๆ แม่น้ำ คลองหลัก คลองสาขา เพียบ แอบนึกไปถึงว่า ชุมชนต่างๆ มีข้อเสนอมายังรัฐบาลมากมายในการขอขุดลอกคลองแบบจริงจัง ถ้ามีน้ำท่วม น่าจะระบายน้ำลงทะเลได้ทันท่วงที สำหรับตอนที่ 2 นี้ ผมจึงอยากกล่าวถึงการขุดคลองสำคัญๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยา แล้วส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินน้ำ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ครั้งครับ
  • ครั้งที่ 1 การขุด "คลองลัดบางกอก" กว่า 500 ปี ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช
  • ครั้งที่ 2 การขุด "คลองลัดเกร็ดใหญ่" กว่า 450 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
  • ครั้งที่ 3 การขุด "คลองลัดเมืองนนท์" กว่า 400 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
  • ครั้งที่ 4 การขุด "คลองลัดเกร็ดน้อย" กว่า 300 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ
  • ครั้งที่ 5 การขุด "คลองลัดโพธิ์" กว่า 300 ปี ในสมัยสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ
แต่ละครั้งที่มีการขุดคลองลัดนั้น มีเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยผมจะค้นคว้าเกร็ด  หรือเรื่องเล่า หรือข้อมูลที่มีการบันทึก หรือการวิเคราะห์ ส่วนตัว เข้าไปด้วย บางแห่งผมอาจจะเดินทางไปเที่ยวไปด้วยในตัวครับ ดังนั้นจากนี้ไป คงจะพิมพ์บทความ "ฉันอ่าน" ให้ได้อ่านกันแบบห่างๆ เนื่องจากหลังจากวันนี้ไป ผมจะมีงานเอกสารเยอะมากๆ ครับ

สำหรับตอนที่ 3 ผมขอพาทุกท่านไปที่ "การขุดคลองลัดบางกอก" ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะมีเรื่องสืบเนื่องกันหลายเรื่องที่ผมอยากแบ่งปัน และที่สำคัญคือ ใกล้ฤกษ์ดวงเมืองกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว อีกด้วยครับ

พิมพ์เมื่อ 15 มกราคม 2563


ข้อมูลอ้างอิง:

ภาพถ่ายแม่น้ำเจ้าพระยา:




2020-01-14_บทความชุด "ฉันอ่าน" ตอนที่ 1 ต้นเหตุของการพิมพ์บทความชุด "ฉันอ่าน" @ 14 มกราคม 2563

สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับบทความชุด "ฉันอ่าน" จะถูกนำเผยแพร่ 2 เว็บไซต์ คือ https://booktoblog.blogspot.com/  และ http://preedanoikendezu.blogspot.com/ แต่ผมจะพิมพ์เนื้อหาหลักในเว็บ "อ่าน Book เขียน Blog" เนื่องจากมี 2 อารมณ์ในบทความคือ เกิดจากการอ่าน แต่รวมการใส่อารมณ์ ความคิดส่วนตัวในลักษณะการวิเคราะห์เข้าไปด้วยครับ คราวนี้เรามาถึงต้นเหตุจริงๆ ของการนำเสนอบทความชุดนี้ สืบเนื่องจาก ส่วนตัวเป็นคนขี้สงสัย สงสัยแล้วก็มักหาคำตอบ เช่น ชอบถาม หรือค้นคว้าเพิ่มเติมจนได้คำตอบ นั่นคือการอ่าน นั่นเอง ยิ่งในยุคดิจิตอลนี้ด้วยแล้ว "การถาม" ลดลงไปมาก แต่ "การอ่าน" เข้ามาทดแทนอย่างมากที่สุด ไม่รู้อะไรถามอากู๋ Google ได้ทันที

แต่การสงสัยนี่สิ เดี๋ยวนี้พอ สงสัย 1 เรื่อง สะสมความสงสัยไปอีกหลายเรื่อง เลยกลายเป็นสงสัยแบบองค์รวม เมื่อได้คำตอบจากการสงสัย 1 เรื่อง สะสมจนหลายเรื่อง แต่บังเอิญว่า คำตอบที่ได้จากอีกเรื่องดันไปตอบข้อสงสัยของอีกเรื่องได้ด้วย เลยยิ่งสงสัยเพิ่มเข้าไปใหญ่ แน่นอนว่าหลายๆ เรื่อง พอเราได้คำตอบมา เลยอาจจะกลายเป็นทางออกของปัญหา หรือกลายเป็นข้อเสนอแนะได้เช่นกันครับ ผมจึงอยากเล่าถึง "ความสงสัย" ที่เป็นจุดเริ่มต้นของบทความชุดนี้ครับ ดังนี้

  1. ผมเคยสงสัยว่าทำไม แม่น้ำเจ้าพระยาถึงสั้นจังกว่าแม่น้ำหลายสายในประเทศไทย และผมก็ยังสงสัยอีกว่า
  2. ทำไมน้ำเค็มถึงดันขึ้นมาถึงจังหวัดปทุมธานีได้ ในช่วงหน้าแล้ง เช่น ช่วงเวลานี้ที่ผู้เขียนกำลังพิมพ์บทความอยู่ ปี 2563 ที่ว่ากันว่า ประเทศไทยจะแล้งที่สุดในรอบ 40 ปี
  3. ผมสงสัยตกค้างมานานแล้วว่า ทำไมคลองบางคลองในไทยถึงได้ใหญ่โต
  4. อีกข้อสงสัยของผมคือ ทำไมตรงบริเวณเกาะเกร็ด ถึงได้เป็นเกาะเกร็ด ธรรมชาติสร้างเกาะเกร็ดมาเองเลยหรือ ช่างมหัศจรรย์จัง
  5. ผมอาศัยอยู่บางบัวทอง ซึ่งใกล้บางใหญ่ ทำไมในเวิ้งบางใหญ่ถึงมีวัดเยอะมากๆ 
  6. เหตุใดการขุดค้นพบซากเรือสำเภาแถวบริเวณไทรม้า จากการจุดตอหม้อทำรถไฟฟ้า ซากเรือสำเภามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
  7. ทำไมคูคลองในเขตกรุงเทพฯ และนนทบุรี ถึงเยอะมากมาย
  8. การงมหาสมบัติแถวบริเวณคลองต่างๆ ในเขตนนทบุรี ถึงพบวัตถุโบราณเยอะ

ซึ่งการสะสมความสงสัยโดยประมาณ 8 ข้อที่ได้แบ่งปันไว้นั้น เป็นความสงสัยสะสม สงสัยบางเรื่อง สงสัยตั้งแต่เด็ก บางเรื่องพึ่งสงสัยไม่ถึง 1 เดือน ดังนั้น สำหรับความสงสัยแบบองค์รวมนี้ หรือ ผมขอเรียกว่า "ความสงสัยรวม" แทนละกันนะครับ ผมจะได้ทยอยพิมพ์ให้ได้อ่านในตอนต่อๆ ไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้อ่าน สงสัยตามๆ ผมไปก่อน แล้วมาหาคำตอบ เพื่อตอบความสงสัย ไปที่ละเปราะ ร่วมกัน และหวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกๆ ท่านด้วยนะครับ

คีย์เวิร์ดสำคัญสำหรับตอนที่ 2 ก็คือ "การขุดคลอง" ผมไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องการขุดคลองสักกี่ตอน ขึ้นกับหลายปัจจัย แต่ตอนที่ 2 ผมขอตั้งชื่อบทความว่า "ตอนที่ 2 การขุดคลองที่ส่งผลต่อแม่น้ำเจ้าพระยา" และเพื่อให้บทความนี้ เป็นบทความกึ่งวิชาการ ผมจะอ้างอิงลิงก์บทความ หรืออ้างอิงหนังสือที่ได้อ่านมาประกอบการเขียนบทความ ให้ได้ทราบกัน ซึ่งบทความชุดนี้ก็จะได้เป็นต้นแบบของผลงานสาธารณะที่ผมจะเริ่มทำขึ้นมาไว้เป็นประโยชน์สาธารณะ ที่ผมคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เวลาถึง 3 ปีในการลงมือทำครับ




โดยปกติผมจะต้องมีภาพประกอบ จึงขอนำเอาภาพน่ารักๆ ที่ภรรยาแอบถ่ายไว้ มาแปะบนบทความตอนที่ 1 นี้ เป็นภาพตอนที่ผมนอนแล้ว ซึ่งผมนอนท่านี้ประจำมากว่า 18 ปีแล้ว ผมไม่ได้นอนหงายแบบคนปกติทั่วไป อารมณ์และความจำเป็นเรื่องนี้จะแบ่งปันในโอกาสที่เหมาะสม แต่เพราะนอนท่านี้ละครับ ทำให้ผมไม่ลดละความพยายามที่จะพิมพ์บทความให้ได้อ่านกันตลอดเวลา เช่นเคยนะครับ กับแนวคิดสำคัญของผมที่คิดว่า

"หากบทความแต่ละบทความจะเป็นประโยชน์กับใครสักคนเพียง 1 คน ก็คุ้มค่ากับการลงมือทำของผมแล้วครับ"



พิมพ์เมื่อ 14 มกราคม 2563


บทความที่ได้รับความนิยม 10 อันดับแรกครับ